The relationship between Thailand and Cambodia has long been close, especially in terms of economy and border trade. Agricultural products, raw materials, and consumer goods rely heavily on road transport through border checkpoints every day. However, recently, the movement of goods has faced major obstacles due to heightened tensions at the border and strict border control measures, which have had a wide-ranging impact on the economy, businesses, and border communities.

Source: Prepared by HS-TECH Engineering

The uncertain opening and closing of border checkpoints have caused long queues of trucks, significantly increasing transportation costs. Some companies have had to resort to alternative routes or switch to shipping by sea and air, which, however, comes with higher costs and longer transit times.

Thai Government Countermeasures

1.      Controlling the prices of essential goods
The Ministry of Commerce has implemented the "No Shortage, No Overpricing" policy to prevent opportunistic price hikes. This involves daily monitoring of the situation and supplying essential goods to affected areas.

2.      Releasing inventory stock
Coordination with retail networks and distribution points is carried out to release inventory that might be impacted by the border closures.

3.      Addressing logistics issues
Collaborate with relevant agencies to find transportation solutions, such as shipping via Laos, with more shipping lines providing transportation to Cambodia, resulting in some reduction in shipping costs.

4.      Supporting the search for new markets
Efforts are made to promote new markets domestically and abroad, increasing trade opportunities and spreading risk for businesses, including promoting Thai products in Cambodia and alternative markets.

Road transport issues between Thailand and Cambodia are not merely a matter of logistics or goods movement; they also reflect the economic, political, and security relations between the two countries. While they have significantly affected traders and farmers, the combination of urgent measures and constructive negotiations is key to resolving the situation and fostering more stable cooperation in the future.

Information from :

1.      https://tna.mcot.net/business-1567014?utm_source=chatgpt.com

2.      https://www.moc.go.th/th/gallery/article/detail/id/5/iid/1068?utm_source=chatgpt.com

(Sunisa)

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชามีความผูกพันกันมายาวนาน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและการค้าชายแดน สินค้าเกษตร วัตถุดิบ และสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวนมากต้องพึ่งพาการขนส่งผ่านด่านทางถนนทุกวัน แต่ในช่วงที่ผ่านมา การเคลื่อนย้ายสินค้ากลับเผชิญอุปสรรคครั้งใหญ่ เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนที่ตึงเครียดและมาตรการควบคุมการผ่านแดนที่เข้มงวด ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ และประชาชนริมชายแดนอย่างกว้างขวาง

Source: Prepared by HS-TECH Engineering

 มาตรการรับมือของรัฐบาลไทย

1. ควบคุมราคาสินค้าจำเป็น
   กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดนโยบาย "ห้ามขาด ห้ามแพง" เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า โดยการติดตามสถานการณ์รายวันและจัดหาสินค้าจำเป็นเข้าไปเสริมในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
2. ระบายสินค้าคงคลัง
   มีการประสานงานกับเครือข่ายห้างร้านและจุดกระจายสินค้า เพื่อระบายสินค้าคงคลังที่อาจได้รับผลกระทบจากการปิดด่านชายแดน
3. แก้ปัญหาด้านโลจิสติกส์
   ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกด้านการขนส่ง เช่น การขนส่งทางเรือและผ่านทาง สปป.ลาว โดยมีสายเรือมาให้บริการขนส่งไปกัมพูชาเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าขนส่งทางเรือลดลงบ้าง
4. สนับสนุนการหาตลาดใหม่
   ส่งเสริมการหาตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสการค้าและกระจายความเสี่ยงของผู้ประกอบการ โดยการส่งเสริมสินค้าไทยในกัมพูชาและตลาดทางเลือก

ปัญหาการขนส่งทางถนนระหว่างไทย–กัมพูชา ไม่ใช่แค่เรื่องโลจิสติกส์หรือการเคลื่อนย้ายสินค้าเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง และความมั่นคงของทั้งสองประเทศ แม้จะสร้างผลกระทบต่อผู้ค้าและเกษตรกรจำนวนมาก แต่การใช้มาตรการเร่งด่วนควบคู่กับการเจรจาเชิงสร้างสรรค์ ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ และนำไปสู่ความร่วมมือที่มั่นคงมากขึ้นในอนาคต

ข้อมูลจาก :

1.      https://tna.mcot.net/business-1567014?utm_source=chatgpt.com

2.      https://www.moc.go.th/th/gallery/article/detail/id/5/iid/1068?utm_source=chatgpt.co

 (Sunisa)

ipping goods between Thailand and Cambodia is an important trade route, allowing businesses to access neighboring markets conveniently, quickly, and cost-effectively. Choosing the right shipping method depends on several factors, including shipment volume, weight, type of goods, delivery time, and budget.

Freight costs vary according to the shipping method and shipment size. Broadly, there are four main categories: 1) small parcels by road, 2) bulk goods by road, 3) LCL (Less than Container Load) by sea, and 4) air freight. Understanding these options helps businesses plan costs and select the most suitable shipping method.

LCL is optimal when you don’t fill up an entire container. LCL allows transportation of small cargo volumes without paying for the whole container.

Actual costs may vary depending on the route, destination, shipment weight, and urgency. Fuel prices and logistics charges can also affect the final cost. Having a clear understanding of freight cost structure allows businesses to plan accurately and select the best shipping option.

From the table above, road freight remains a cost-effective option, suitable for both small businesses and larger exporters looking to distribute goods in bulk. Advance planning and comparing different shipping methods can ensure smoother operations, minimize unexpected expenses, and improve overall efficiency.

Information from

Link : https://www.lidiexpress.com/worldwide/cambodia/?utm_source=chatgpt.com

Link : https://fastship.co/shipping-to-cambodia/?utm_source=chatgpt.com

Link : https://www.flexport.com/route-search/thbkk/khpnh?utm_source=chatgpt.com

การขนส่งสินค้าระหว่างไทยและกัมพูชาเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงตลาดเพื่อนบ้านได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และคุ้มค่า การเลือกวิธีการขนส่งที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่ ปริมาณการขนส่ง น้ำหนัก ประเภทสินค้า ระยะเวลาการจัดส่ง และงบประมาณ

ต้นทุนค่าขนส่งจะแตกต่างกันไปตามวิธีการขนส่งและขนาดการขนส่ง โดยทั่วไปมี 4 ประเภทหลัก ได้แก่ 1) พัสดุขนาดเล็กทางถนน 2) สินค้าเทกองทางถนน 3) การขนส่งแบบ LCL (ขนส่งน้อยกว่าตู้คอนเทนเนอร์) ทางทะเล และ 4) การขนส่งทางอากาศ การทำความเข้าใจตัวเลือกเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนต้นทุนและเลือกวิธีการขนส่งที่เหมาะสมที่สุด

การขนส่งแบบ LCL เหมาะสมที่สุดเมื่อคุณไม่ต้องบรรทุกสินค้าเต็มตู้คอนเทนเนอร์ LCL ช่วยให้สามารถขนส่งสินค้าปริมาณน้อยได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าขนส่งทั้งตู้คอนเทนเนอร์

ต้นทุนจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเส้นทาง ปลายทาง น้ำหนักสินค้า และความเร่งด่วน ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าโลจิสติกส์ก็มีผลต่อต้นทุนสุดท้ายเช่นกัน ความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับโครงสร้างต้นทุนค่าขนส่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนได้อย่างแม่นยำและเลือกตัวเลือกการขนส่งที่ดีที่สุด

จากตารางด้านบน การขนส่งสินค้าทางถนนยังคงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและผู้ส่งออกรายใหญ่ที่ต้องการกระจายสินค้าจำนวนมาก การวางแผนล่วงหน้าและการเปรียบเทียบวิธีการขนส่งที่แตกต่างกันจะช่วยให้การดำเนินงานราบรื่นขึ้น ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม

ข้อมูลจาก :

Link : https://www.lidiexpress.com/worldwide/cambodia/?utm_source=chatgpt.com

Link : https://fastship.co/shipping-to-cambodia/?utm_source=chatgpt.com

Link : https://www.flexport.com/route-search/thbkk/khpnh?utm_source=chatgpt.com

Taken by author (Bee)

ปี 2025 การค้าชายแดนไทย–กัมพูชาต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อด่านชายแดนหลายแห่งถูกปิดชั่วคราวเพราะปัญหาความตึงเครียด ส่งผลให้การขนส่งสินค้าทางบกที่เคยสะดวกและรวดเร็วต้องหยุดชะงัก ธุรกิจจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME และผู้ส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค ได้รับผลกระทบโดยตรง

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ผู้ประกอบการไทยจำนวนไม่น้อยหันมาใช้เส้นทางใหม่ ทั้งการส่งออกทางเรือผ่านท่าเรือในจังหวัดตราดไปยังท่าเรือสีหนุวิลล์ หรืออ้อมผ่านลาวและเวียดนาม แม้จะเพิ่มต้นทุนและใช้เวลานานขึ้น แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยให้การค้าดำเนินต่อไปได้

Taken by author (Bee)

แม้การเดินทางของสินค้าในวันนี้จะยังไม่ง่ายดาย แต่ทุกก้าวเล็ก ๆ ของการเจรจา เราก็หวังว่าจะพาเส้นทางการค้าระหว่างไทย–กัมพูชากลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง

(Bee)